
ปัจจัยที่ทำให้แบรนด์มีคุณค่า โดยอ้างอิงองค์ประกอบของคุณค่าแบรนดืทั้ง 4 ของ David Aaker
Brand loyalty
Brand loyalty

(นายพงศกร ศักดิ์เกษมศานต์ ID:1500322738)
เบียร์สิงห์มีจุดแข็งที่สำคัญคือ เบียร์ไทยเจ้าแรก ซึ่งสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อได้ยินคำว่า เบียร์ไทย ผู้บริโภคสามารถเชื่อมโยงถึงเบียร์สิงห์ได้ทันที เบียร์สิงห์มีการชูจุดขายที่ว่า “เมืองไทยของเรา เบียร์ไทยของเรา” มาสร้างความสัมพันธ์ลูกค้าหรือ CRM จัดเทศกาลอาหาร ประเพณีกีฬาท้องถิ่น สำหรับกลุ่มระดับรากหญ้า ด้านคนเมือง ยึดมิวสิค สปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง สื่อสารกลุ่มคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังทำกิจกรรม ณ จุดขายมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายคือ คนที่ยังไม่เคยดื่ม มาทดลองดื่ม และรักษาฐานลูกค้าที่ดื่มสิงห์อยู่แล้วให้เหนียวแน่น คาดว่าในอนาคต คู่แข่งในตลาดจะหันมาทำกิจกรรมเช่นเดียวกันนี้มากขึ้น เนื่องมาจากภาครัฐมีข้อจำกัดเวลาในการโฆษณาทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มชูกำลัง ทั้งนี้เบียร์สิงห์คงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจาก สิงห์ประสบความสำเร็จด้านแบรนด์เป็นที่รู้จักและมีความต่อเนื่องของกิจกรรมทางการตลาดอยู่แล้ว ทั้งทางด้านดนตรีและกีฬา (Music & Sport Marketing)
(น.ส.สุธาทิพย์ แสงหิรัญ ID : 1500334667)
Perceived Quality

ข้าวมอลต์ ได้มาจากข้าวบาร์เลย์ ซึ่งเป็นธัญพืช ที่นิยมปลูกในประเทศ ที่มีภูมิอากาศเย็น จะมีการปลูกกันมาก ในประเทศทางทวีปยุโรป เช่น เยอรมนี ออสเตรีย อังกฤษ เดนมาร์ก และ ออสเตรเลีย ส่วนประเทศไทยมีการนำ สายพันธุ์ ข้าวบาร์เลย์เข้ามาปลูกในแถบ ภาคเหนือ ซึ่งมีภูมิอากาศเย็น มีการ ส่งเสริม การปลูกข้าวบาร์เลย์
น้ำ เป็นวัตถุดิบที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง เนื่องจากเบียร์มีส่วนประกอบที่เป็น น้ำมากกว่า 90% คุณภาพของน้ำ ที่ใช้สำหรับการ ผลิตเบียร์ขึ้นอยู่กับ ลักษณะของเบียร์ที่จะผลิต ความอ่อน ความกระด้างของน้ำจะมีผลต่อ รสชาติของเบียร์ หรือมีผลต่อความ เปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้นในกระบวน การผลิต นอกเหนือจากนี้สิงห์ยังได้มีการจัดทำCSRต่างๆมากมาย เหตุนี้สิงห์จึงแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อถือจากสังคมเรื่อยมา
(นายอาทิตย์ เกษศรีรุ่งเรือง ID:1500318744)
Brand Association

(นายสิทธา สุจริตธรรม ID : 1500323801)
การคุ้มครองแบรนด์ผ่านกฎหมาย IP Protection

(นายวชิรุตม์ พุทธรักษ์ ID :1500322415)
1. การสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง
เบียร์สิงห์มีการสร้างแบรนด์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลาประมาณ 60-70 ปี เพราะผู้บริหารมองว่าหากสินค้ามีแบรนด์แล้ว ก็สามารถเข้าถึงและยึดเหนี่ยวใจของผู้บริโภคได้ อีกทั้งเพื่อต้องการสร้างแบรนด์ให้ไปไกลถึงในระดับนานาชาติ ซึ่งในขณะนี้เบียร์สิงห์ได้ขยายฐานสินค้าไปถึงอเมริกาและยุโรปแล้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2. การคงคุณภาพสินค้า
เบียร์สิงห์ใส่ใจเรื่องของคุณภาพสินค้าเป็นอย่างมาก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าได้มีการลดแอลกอฮอล์ลงจาก 6% เป็น 5.5% และลดความขมลงเพื่อให้คนรุ่นใหม่ดื่มได้ง่ายขึ้น แต่เนื้อเบียร์ยังเท่าเดิม รสชาติความเป็นไทย ยังคงเหมือนเดิม ทำให้ลูกค้าของเบียร์สิงห์ที่เคยดื่มยังชื่นชอบในรสชาติและคุณภาพของเบียร์สิงห์ตลอดมา
3. มีเอกลักษณ์ของไทย
แบรนด์เบียร์สิงห์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทยแท้ๆ จึงมีการหยิบยกเอาจุดเด่นข้อนี้มาเป็นกลยุทธ์หลักในการสื่อสารไปหาผู้บริโภค ซึ่งเป็นคนไทยเช่นกัน การเชื่อมโยงประสบการณ์ต่างๆผ่านโฆษณาหรือสื่อต่างๆ รวมถึงผ่าน touch points ทั้งหมด เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความสอดคล้องกับความเป็นไทย ยกตัวอย่างเช่น รูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นลายสุริโยทัย ทำให้สะท้อนความเป็นไทยออกมา ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมต่างๆ ลายกนก ลายไทย หรือแม้กระทั่ง สแกนที่ว่า “เบียร์สิงห์ เบียร์ไทย” จึงมัดใจคนไทยและชาวต่างชาติได้ไม่ยาก
4. การมีทรัพยากรบุคลากรที่ดี
จะเห็นได้จากการทำงานที่ตกทอดกันเป็นทายาทรุ่นต่อรุ่น จึงมีการถ่ายทอดงานและประสบการณ์ในการทำงานอย่างดีเยี่ยม ผู้บริหารในแต่ละรุ่นต่างมีความสามารถและใช้ความสามารถมาพัฒนาและแก้ไขสถานการณ์ต่างๆของเบียร์สิงห์ได้เป็นอย่างดี อาทิเช่น ช่วงหนึ่งที่เบียร์ช้างเข้ามาตีตลาดและกลายเป็นเจ้าตลาดไปในที่สุด ในปี 2544 แต่ผ่านไปได้ไม่กี่ปี คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ก็นำทีมเบียร์สิงห์ก้าวขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งอีกครั้งในพ.ศ.นี้ เป็นต้น
5. มีจุดยืนที่ชัดเจนและแตกต่าง
หากพูดถึงเบียร์ไทย เบียร์อันดับต้นๆหรืออาจจะเป็นอันดับแรกที่นึกถึง คือ เบียร์สิงห์ ด้วยชื่อเสียงของแบรนด์ที่สั่งสมมานาน และคงคอนเซปต์เบียร์สิงห์ เบียร์ไทยมาโดยตลอด ทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ดี และมีลูกค้าที่ซื่อสัตย์ต่อแบรนด์อยู่เป็นจำนวนมาก การใช้โลโก้รูปสิงห์เป็นอีกเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งทั้งเบียร์ไทยและเบียร์เทศ
6. วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร
ผู้บริหารของเบียร์สิงห์แต่ละรุ่น ต่างมีวิสัยทัศน์ที่ดี ไม่ว่าจะเป็น เน้นการสร้างแบรนด์ให้กับองค์กรและสินค้า การแตกย่อยบริษัทให้เล็กลงเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจเรื่องงาน อีกทั้งยังคงคุณค่าความเป็นไทยไว้เสมอ และจะเห็นได้ว่าเบียร์สิงห์มีการส่งต่อถึงทายาทรุ่นที่ 4 แล้วซึ่งเป็นทายาทวัยหนุ่ม เหมาะที่จะมาสานต่อทำงาน เพราะปัจจุบันนี้การทำธุรกิจต้องอาศัยความคิดของคนรุ่นใหม่เพื่อให้ก้าวทันคู่แข่งและก้าวทันโลกอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นวิสัยทัศน์ของผู้บริหารจึงเป็นเป็นแรงผลักดันสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้
(นายธนัชชา จำลองรัตน์ ID:1500310543)
(นายอนุวัฒน์ หาญจริยากูล ID:1500322423)(น.ส.ลลิดา ชัยพฤกษ์วัฒนา ID:1500326739)
กลุ่มเจ็ก section 3011
นายธนัชชา จำลองรัตน์ ID:1500310543
นายอาทิตย์ เกษศรีรุ่งเรือง ID:1500318744
นายวชิรุตม์ พุทธรักษ์ ID:1500322415
นายอนุัวัฒน์ หาญจริยากูล ID:1500322423
นายพงศกร ศักดิ์เกษมศานต์ ID:1500322738
นายสิทธา สุจริตธรรม ID:1500322801
น.ส.ลลิดา ชัยพฤกษ์วัฒนา ID:1500326739
น.ส.สุธาทิพย์ แสงหิีรัญ ID:1500334667
นายธนัชชา จำลองรัตน์ ID:1500310543
นายอาทิตย์ เกษศรีรุ่งเรือง ID:1500318744
นายวชิรุตม์ พุทธรักษ์ ID:1500322415
นายอนุัวัฒน์ หาญจริยากูล ID:1500322423
นายพงศกร ศักดิ์เกษมศานต์ ID:1500322738
นายสิทธา สุจริตธรรม ID:1500322801
น.ส.ลลิดา ชัยพฤกษ์วัฒนา ID:1500326739
น.ส.สุธาทิพย์ แสงหิีรัญ ID:1500334667